ผู้ติดตาม

วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553

ธัญพืชเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่กำลังมาแรง ผู้บริโภคนิยมผสมในผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม เช่น นม หรือเครื่องดื่มธัญญาหารสำเร็จรูป ดื่มเพื่อบำรุงร่างกาย ปัจจุบันมีธัญพืช 4 ประเภทที่กำลังฮิตในบ้านเรา อะไรบ้างและมีประโยชน์อย่างไร ข้าวสาลี อุดมด้วยสารอาหารมากกว่า 100 ชนิด มีแร่ธาตุหลักๆ ที่ร่างกายต้องการครบถ้วน มี วิตามินกลุ่มบีคอมเพล็กซ์ เป็นแหล่งโปรวิตามินเอสูงที่สุดในบรรดาอาหารต่างๆ ทั้งยังมีวิตามินซี อี และเคในปริมาณมาก วิตามินและแร่ธาตุสำคัญๆ จะอยู่บริเวณเปลือกข้าวและจมูกข้าว เครื่องดื่มบางชนิดจึงมักผสมจมูกข้าวสาลีเพื่อเพิ่มคุณประโยชน์ นอกจากนี้ต้นกล้าข้าวสาลี ยังมีคลอโรฟิลล์และออกซิเจนสูง นิยมนำมาคั้นดื่มสดๆ เพื่อล้างพิษในร่างกาย ลูกเดือย เป็นธัญพืชให้พลังงานสูง และมีโปรตีนคุณภาพสูง ในตำรายาจีนมักใช้ลูกเดือยบดผสมข้าวต้มกินบำรุงกำลัง ที่สำคัญ ลูกเดือยยังมีสารอาหารอื่นๆ เช่น วิตามินบี 1 วิตามินเอ โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม ใยอาหาร และกรดอะมิโน ช่วยให้หลับง่ายขึ้น ข้าวโอ๊ต อุดมด้วยใยอาหารชนิดละลายน้ำได้ ซึ่งทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำเล็กๆ คอยดูดซับอาหารจำพวกน้ำตาล แป้งและไขมันในลำไส้เล็ก และนำพาไปยังระบบขับถ่าย จึงช่วยลดคอเลสเตอรอลในกระแสเลือดและลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ นอกจากนี้ยังมีใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ ช่วยเร่งให้อุจจาระเคลื่อนผ่านลำไส้ใหญ่ได้เร็วขึ้น มีสรรพคุณในการป้องกันและแก้ท้องผูก ทั้งนี้ ใยอาหารทั้งสองชนิดพบในเปลือกหุ้มเมล็ดข้าวโอ๊ต จึงควรกินข้าวโอ๊ตที่ไม่ขัดสี องค์กรอาหารและยา สหรัฐอเมริกา แนะนำให้กินข้าวโอ๊ตเป็นประจำเพื่อลดคอเลสเตอรอลและความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ งาดำ มีแคลเซียมสูงกว่านมวัวถึง 6 เท่า อุดมด้วยวิตามินบี 1 บี 2 บี 3 บี 5 บี 6 และ บี 9 และวิตามินอีสูง ช่วยบำรุงประสาท การกินงาดำเป็นประจำช่วยให้ร่างกายสดชื่น กระฉับกระเฉง และกระดูกแข็งแรง ในงาดำมีไขมัน ซึ่งจัดเป็นไขมันคุณภาพดี มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ทั้งยังมีโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด และป้องกันโรคหัวใจ ในเมล็ดงาดำยังมีกรดอะมิโนบางชนิดที่จำเป็นต่อร่างกายในปริมาณสูง ผู้ที่กินอาหารมังสวิรัติประจำ ควรกินงาดำร่วมกับถั่วเพื่อให้ได้กรดอะมิโนที่จำเป็นอย่างเพียงพอ วั น นี้ เ ร า ม า กิ น ธั ญ พื ช เ พื่ อ สุ ข ภ า พ กั น เ ถ อ ะ
ทำไมคุณย่าถึงชอบต้มลูกเดือยร้อนๆ ไว้ทานทุกเช้าล่ะครับ" เจ้าหลานชายตัวน้อยเอ่ยถามคุณย่า เพราะถึงแม้เขาจะคุ้นเคยดีกับการกินลูกเดือย ทั้งลูกเดือยต้มหรือลูกเดือยที่เป็นส่วนผสมหนึ่งในน้ำอาร์.ซี. ที่คุณย่าชอบทานก็ตามที แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าเจ้าลูกเดือยเมล็ดกลมๆ นี้มีประโยชน์อย่างไรบ้าง คุณย่าจึงเล่าถึงสรรพคุณดีๆ ของลูกเดือยว่า
คุณค่าทางอาหาร ลูกเดือยมีฟอสฟอรัสอยู่ในปริมาณสูง จึงช่วยบำรุงกระดูก รองลงมามีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา และมีวิตามินบีหนึ่งมาก ซึ่งช่วยแก้ปัญหาเหน็บชา อีกทั้งเป็นอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกายสูง จึงมีสรรพคุณในการบำรุงกำลัง และเหมาะสำหรับคนไข้พักฟื้น
คุณค่าทางยา ใช้ชงป็นยาเย็น ขับปัสสาวะ แก้ร้อนใน บำรุงไต กระเพาะอาหาร ม้าม รวมทั้งบำรุงเลือดลมในสตรีหลังคลอด รักษาอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง
นอกจากนี้ ในตำรายาจีนยังใช้ลูกเดือยบดผสมข้าว ต้มเป็นข้าวต้มกินทุกวันเพื่อบำรุงกำลัง ช่วยหล่อลื่นกระเพาะอาหารและลำไส้ แก้บวมน้ำ ปวดข้อเรื้อรัง ทั้งยังเชื่อว่าการรับประทานลูกเดือยต้มน้ำตาลสามารถที่จะแก้ร้อนในได้อีก "นอกจากลูกเดือยจะทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้านแล้ว ยังเป็นอาหารที่เหมาะกับผู้สูงอายุและคนทุกวัยอีก รู้อย่างนี้ ผมต้องขอเติมอีกชามแล้วล่ะครับ" หลานชายตัวน้อยพูดพร้อมยื่นชามใบเดิมให้คุณย่าทันที
อ้างอิง
www.samunpri.com
th.wikipedia.org/